บทความ: คู่มือเกษตรกรเพื่อผลผลิตข้าวและอ้อยสูงสุดในนครสวรรค์
การเลือกและการใช้ "ปุ๋ย" ที่เหมาะสมกับพืชเศรษฐกิจหลักในพื้นที่โกรกพระ (SEO Content)
โดย: ทีมงาน จงกลธรรมเกษตร | 29 ตุลาคม 2568
สำหรับเกษตรกรในจังหวัดนครสวรรค์ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอโกรกพระ พืชเศรษฐกิจหลักอย่าง ข้าว และ อ้อย มีความต้องการธาตุอาหารและต้องเผชิญกับศัตรูพืชที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ ปุ๋ย และ ยาปราบศัตรูพืช ที่เหมาะสมกับช่วงอายุพืช สภาพดิน และสภาพอากาศ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินความสำเร็จของผลผลิตทั้งหมด
1. การจัดการธาตุอาหารสำหรับนาข้าว: หัวใจของการทำนา
การทำนาข้าวต้องใส่ปุ๋ยให้ถูกช่วงเวลาและถูกสูตร ปุ๋ยหลักที่จำเป็นคือ ไนโตรเจน (N) สำหรับการแตกกอและการสร้างใบ, ฟอสฟอรัส (P) สำหรับรากและรวง, และ โพแทสเซียม (K) สำหรับความแข็งแรงของต้นและคุณภาพเมล็ด ในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ควรเน้นปุ๋ยที่มี ไนโตรเจนสูง (เช่น สูตร 46-0-0) เพื่อกระตุ้นการแตกกอ เมื่อเข้าสู่ช่วงตั้งท้อง (ก่อนออกรวง) เกษตรกรควรปรับไปใช้ปุ๋ยที่มี โพแทสเซียมสูง (เช่น สูตร 0-0-60 หรือสูตรผสมที่เหมาะสม) ที่ บริษัท จงกลธรรมเกษตร จำกัด เรามีปุ๋ยทุกสูตรที่ได้รับความนิยมสำหรับนาข้าวในพื้นที่นครสวรรค์
2. สูตรปุ๋ยสำหรับอ้อย: เพิ่มความหวานและน้ำหนัก
อ้อยเป็นพืชที่ต้องการธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไนโตรเจน ในช่วงแรกของการปลูกและ โพแทสเซียม เพื่อสร้างความหวานและน้ำหนักในระยะเก็บเกี่ยว การใช้ ปุ๋ยรองพื้น ที่มีฟอสฟอรัสสูงในตอนปลูกจะช่วยให้รากแข็งแรง การใส่ปุ๋ยครั้งที่สองและสามควรเน้นไนโตรเจนและโพแทสเซียมตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับพันธุ์อ้อยและชนิดของดิน การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยให้คุณเลือก ปุ๋ยคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. การเลือกใช้ "ยาปราบศัตรูพืช" อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ศัตรูพืชหลักๆ ที่เกษตรกรต้องเผชิญ ได้แก่ หนอนกอ ในนาข้าว, เพลี้ยแป้ง ในอ้อย, และ วัชพืช ต่างๆ การเลือกใช้ ยาปราบศัตรูพืช ที่มีฤทธิ์เจาะจงกับศัตรูแต่ละชนิดจะช่วยลดการใช้สารเคมีในปริมาณมากโดยไม่จำเป็น สำหรับการกำจัดวัชพืช ควรใช้ สารกำจัดวัชพืชแบบเลือกทำลาย ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อพืชปลูกหลักของคุณ จงกลธรรมเกษตร คัดสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ และมีคำแนะนำการใช้งานที่ปลอดภัยเพื่อสุขภาพของเกษตรกร
4. การจัดการดินระยะยาว: การใช้ปุ๋ยอินทรีย์
แม้ว่าปุ๋ยเคมีจะให้ผลผลิตที่ดีในระยะสั้น แต่การรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินในระยะยาวต้องอาศัย ปุ๋ยอินทรีย์ หรือ ปุ๋ยชีวภาพ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์จะช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย เก็บน้ำได้ดีขึ้น และเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อการย่อยสลายสารอาหาร การผสมผสานระหว่างปุ๋ยเคมีและอินทรีย์เป็นแนวทางที่ยั่งยืน ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
หากท่านต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือก ปุ๋ย หรือ ยาปราบศัตรูพืช ที่ดีที่สุดสำหรับแปลงเกษตรของท่านในนครสวรรค์ โปรดติดต่อ บริษัท จงกลธรรมเกษตร จำกัด เรายินดีให้บริการด้วยความจริงใจและประสบการณ์